ถาม-ตอบ
เด็กแรกเกิดที่มีคุณสมบัติรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดมีคุณสมบัติดังนี้
1. มีสัญชาติไทย
2. เกิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 (ยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน) เป็นต้นไปจนอายุครบ 6 ปี
3. ต้องไม่เป็นผู้ได้รับเงินช่วยเหลือในการเลี้ยงดูบุตร * จากหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ
หรืออยู่ในความอุปการะของหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน
4. ต้องอาศัยอยู่กับผู้ปกครองที่อยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย หรืออยู่กับบิดาและมารดาที่ถือบัตร
สวัสดิการแห่งรัฐ หรืออยู่กับมารดาถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยไม่ปรากฏบิดา หรืออยู่กับบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและไม่ปรากฏมารดา
• ผู้ปกครองที่มีสิทธิ์ลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด มีคุณสมบัติดังนี้
1. มีสัญชาติไทย
2. เป็นบุคคลที่รับเด็กแรกเกิดไว้ในความอุปการะเพื่อเลี้ยงดูอย่างบุตร
3. เด็กแรกเกิดต้องอาศัยรวมอยู่ด้วย
4. อยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย คือ รายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน ต่อปี
แนวทางการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยผู้พิการตามโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการ (e-payment) ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 เป็นต้นไป แจ้งโอนเงินเข้าบัญชีเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยยังชีพผู้พิการเข้าบัญชีผู้มีสิทธิ์รับเงินโดยตรงจากรมบัญชีกลาง แทน อบต.
โดยกำหนดจ่ายเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือนกรณีตรงกับวันหยุดราชการจะจ่ายในวันทำการก่อนวันหยุดนั้น
ทั้งนี้กรมบัญชีกลาง จะโอนเงินงบประมาณดังกล่าวเข้าคลังท้องถิ่นภายในวันที่ 10 ของเดือน ซึ่ง อบต. สามารถเบิกจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการ กรณีรับเงินสดได้
1) สัญชาติไทย
2) มีอายุ 59 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยการลงทะเบียนปี 2563 ต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2503
(ผู้สูงอายุที่ทะเบียนราษฎรระบุเฉพาะปีเกิด ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้น ๆ)
3) ต้องไม่เคยได้รับสิทธิประโยชน์จากหน่วยงานรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ไม่ว่าจะเป็นเงินบำนาญเบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ รวมถึงเงินอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน เช่น ผู้สูงอายุที่อยู่ในผู้สถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กกปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐจัดให้เป็นประจำ
1) คําขอจดทะเบียนพาณิชย์ (แบบ ทพ.)
2) สําเนาบัตรประจําตัวของผู้ประกอบพาณิชยกิจ
3) สําเนาทะเบียนบ้านของผู้ประกอบพาณิชยกิจ